#2022france# 姐这周的tr⬇️
起跑后的十圈左右per就收到了两次赛道限制警告 Bono也告诉姐了 后来姐的胎温达到峰值后提了一些速 也就没追上;关于姐是怎么跑的可以看图 是sc重启后 姐把对s1的心得从排位带到正赛了 所以per有尾速优势但是弯中跟不住也没用;姐总是觉得自己的s3比per慢 Bono告诉他就差在直道 后来调了几次T15的出弯就调好啦;大概倒数十圈的时候姐很委屈和Bono讲饮水系统没有用[失望]
起跑后的十圈左右per就收到了两次赛道限制警告 Bono也告诉姐了 后来姐的胎温达到峰值后提了一些速 也就没追上;关于姐是怎么跑的可以看图 是sc重启后 姐把对s1的心得从排位带到正赛了 所以per有尾速优势但是弯中跟不住也没用;姐总是觉得自己的s3比per慢 Bono告诉他就差在直道 后来调了几次T15的出弯就调好啦;大概倒数十圈的时候姐很委屈和Bono讲饮水系统没有用[失望]
โอกาสสำหรับประเทศไทยในเขตเศรษฐกิจสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซี (YRD)
ศักยภาพและโอกาสในเขตเศรษฐกิจสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซี
จีนเป็นประเทศมหาอำนาจที่มีมูลค่าการค้าระหว่างประเทศมหาศาล ซึ่งหากเราเจาะลึกลงไปท่านผู้อ่านทราบหรือไม่คะว่า ประเทศจีนมีเขตเศรษฐกิจแห่งหนึ่งที่มีขนาด GDP คิดเป็น ๑ ใน ๔ ของมูลค่ารวมทั้งประเทศเลยทีเดียว และนั้นก็คือ เขตเศรษฐกิจ Yangtze River Delta (YRD) หรือ เขตเศรษฐกิจลุ่มแม่น้ำแยงซี นั้นเองค่ะ โดยคุณลดา ภู่มาศ กงสุลใหญ่ ณ นครเซี่ยงไฮ้ จะมาขยายความให้ผู้อ่านเข้าใจถึงศักยภาพและโอกาสของไทยในเขตเศรษฐกิจนี้กันค่ะ (รับฟังเพิ่มเติมผ่าน FM 88 MHz สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย)
เขตเศรษฐกิจลุ่มแม่น้ำแยงซี ซึ่งประกอบด้วย นครเซี่ยงไฮ้ มณฑลเจียงซู มณฑลเจ้อเจียง และมณฑลอานฮุยมีขนาดพื้นที่รวมกันเพียงประมาณร้อยละ ๔ ของประเทศจีน แต่กลับมีจำนวนประชากรถึง ๓๔๐ ล้านคน และมีขนาด GDP เทียบเท่า ๑ ใน ๔ ของทั้งประเทศจีน กล่าวได้ว่ามูลค่าทางการค้าระหว่างประเทศของจีนประมาณร้อยละ ๓๗ เกิดขึ้นในเขตเศรษฐกิจลุ่มแม่น้ำแยงซี และเมื่อไม่นานนี้ ช่วงครึ่งแรกของปี ๒๕๖๔ มูลค่าการค้าระหว่างประเทศในเขตเศรษฐกิจลุ่มแม่น้ำแยงซี เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ ๓๒.๙ คิดเป็นร้อยละ ๓๖.๑ ของมูลค่าการค้าทั้งหมดในประเทศจีน โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศต่อหัว (GDP per Capita) ของนครเซี่ยงไฮ้ (ในมณฑลเจ้อเจียง) ติดอันดับสูงสุดในประเทศ ถือเป็นเมืองเดียวในจีนที่มีมูลค่า GDP รวมมากกว่า ๒ ล้านล้านหยวน ในขณะที่กรุงปักกิ่งรั้งอันดับ ๒ ด้วยมูลค่า GDP ๑.๙ ล้านล้านหยวน-สถิติเหล่านี้ได้เน้นย้ำถึงศักยภาพของเขตเศรษฐกิจลุ่มแม่น้ำแยงซี
...มีกลุ่มนักลงทุนจำนวนมากจากเขตเศรษฐกิจลุ่มแม่น้ำแยงซีที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทยด้วย ซึ่งรวมถึงการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมไทย-จีน จังหวัดระยอง และการลงทุนของ SAIC Motor หนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในนครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งได้ร่วมทุนกับบริษัทชั้นนำของประเทศไทยลงทุนด้านรถยนต์พลังงานไฟฟ้าและยานยนต์เพื่ออุตสาหกรรมในอนาคต นอกจากนี้ ยังมีบริษัท ZTE, Huawei และ Alibaba ที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทยด้วย ในขณะที่ไทยเองก็ได้มีการส่งออกสินค้าของไทยหลายประเภทไปสู่เขตเศรษฐกิจแห่งนี้ ได้แก่ เครื่องจักร อิเล็กทรอนิกส์ วงจรรวม พลาสติก และผลไม้ โดยเฉพาะทุเรียนเกรดพรีเมียม ซึ่งสินค้าทั้งหมดนี้สร้างรายได้ให้กับธุรกิจภาคการเกษตรของไทยและภาคการลงทุนอย่างมาก
รัฐบาลไทยตระหนักถึงศักยภาพของเขตเศรษฐกิจลุ่มแม่น้ำแยงซีเป็นอย่างดี จึงได้ก่อตั้งสถานกงสุลใหญ่ ณ นครเซี่ยงไฮ้ เมื่อปี ๒๕๔๐ โดยมีอาณาเขตครอบคลุมเขตเศรษฐกิจลุ่มแม่น้ำแยงซี และได้ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างไทยและกลยุทธ์ของเขตเศรษฐกิจลุ่มแม่น้ำแยงซีมาอย่างต่อเนื่อง
สำหรับท่านกงสุลใหญ่ลดา ที่เพิ่งรับหน้าที่กงสุลใหญ่ในนครเซี่ยงไฮ้ยังไม่ถึง ๑ ปี ได้ร่วมจัดกิจกรรมต่าง ๆ ครอบคลุมทุกด้านของความร่วมมือไทย-จีน เพื่อให้ประเทศไทยอยู่ในเรดาร์ของภาคธุรกิจ หน่วยงานของรัฐ และประชาคมระหว่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ ล่าสุดเมื่อวันที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๖๔ ได้จัดการประชุมเศรษฐกิจกรุงเทพฯ-เซี่ยงไฮ้ ครั้งที่ ๔ (Bangkok-Shanghai Economic Conference) ในหัวข้อ “การสอดประสานนโยบายเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุ่นเวียน และเศรษฐกิจสีเขียวของไทยกับนโยบายการพัฒนาที่มีคุณภาพสูงของจีน: จาก EEC ถึง YRD” (“Synergizing Thailand’s BCG with China’s High-Quality Development: From EEC to YRD”) ที่นครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก มีผู้บริหารระดับสูงจากภาครัฐและภาคธุรกิจเข้าร่วมประมาณ ๖๐ คน และมีผู้รับชมการถ่ายทอดสดกว่า ๕,๐๐๐ คน
นอกจากนี้ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครเซี่ยงไฮ้ ยังคำนึงว่า soft power หรืออำนาจละมุน จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยในระดับสากล จึงดำเนินการผลักดันมวยไทย การนวดไทย และสปาไทย ให้เป็นที่นิยมและเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ยิ่งไปกว่านั้น สถานกงสุลใหญ่ฯ มีเป้าหมายในการสานต่อเรื่องราวความสำเร็จของความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และธุรกิจในเขตเศรษฐกิจลุ่มแม่น้ำแยงซี เพื่อผลักดันให้เกิดผลเป็นรูปธรรมมากขึ้นในอนาคต รวมถึงส่งเสริมความเชื่อมโยงกับสถาบันการศึกษา มหาวิทยาลัย และผู้คนท้องถิ่นในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อผนึกพลัง ประสานความต่างทางยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาของทั้งสองประเทศในการสร้างผลประโยชน์ร่วมกันระหว่างประเทศไทยกับพื้นที่ในเขตเศรษฐกิจลุ่มแม่น้ำแยงซี
ท่านกงสุลใหญ่ลดาเชื่อว่า ทั้ง EEC ของไทย และ YRD ของจีน จะเกื้อกูลกันและกันในการสร้างโอกาสและความร่วมมือด้านต่าง ๆ อาทิ ด้านการวิจัยและการพัฒนา หุ้นส่วนทางธุรกิจและการลงทุน หุ้นส่วนในระดับภูมิภาค หรือการบรรลุเป้าหมายทางอุตสาหกรรมในพื้นที่และการเป็นหุ้นส่วนทาง BCG
ที่มา https://t.cn/A66xj1dK
ศักยภาพและโอกาสในเขตเศรษฐกิจสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซี
จีนเป็นประเทศมหาอำนาจที่มีมูลค่าการค้าระหว่างประเทศมหาศาล ซึ่งหากเราเจาะลึกลงไปท่านผู้อ่านทราบหรือไม่คะว่า ประเทศจีนมีเขตเศรษฐกิจแห่งหนึ่งที่มีขนาด GDP คิดเป็น ๑ ใน ๔ ของมูลค่ารวมทั้งประเทศเลยทีเดียว และนั้นก็คือ เขตเศรษฐกิจ Yangtze River Delta (YRD) หรือ เขตเศรษฐกิจลุ่มแม่น้ำแยงซี นั้นเองค่ะ โดยคุณลดา ภู่มาศ กงสุลใหญ่ ณ นครเซี่ยงไฮ้ จะมาขยายความให้ผู้อ่านเข้าใจถึงศักยภาพและโอกาสของไทยในเขตเศรษฐกิจนี้กันค่ะ (รับฟังเพิ่มเติมผ่าน FM 88 MHz สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย)
เขตเศรษฐกิจลุ่มแม่น้ำแยงซี ซึ่งประกอบด้วย นครเซี่ยงไฮ้ มณฑลเจียงซู มณฑลเจ้อเจียง และมณฑลอานฮุยมีขนาดพื้นที่รวมกันเพียงประมาณร้อยละ ๔ ของประเทศจีน แต่กลับมีจำนวนประชากรถึง ๓๔๐ ล้านคน และมีขนาด GDP เทียบเท่า ๑ ใน ๔ ของทั้งประเทศจีน กล่าวได้ว่ามูลค่าทางการค้าระหว่างประเทศของจีนประมาณร้อยละ ๓๗ เกิดขึ้นในเขตเศรษฐกิจลุ่มแม่น้ำแยงซี และเมื่อไม่นานนี้ ช่วงครึ่งแรกของปี ๒๕๖๔ มูลค่าการค้าระหว่างประเทศในเขตเศรษฐกิจลุ่มแม่น้ำแยงซี เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ ๓๒.๙ คิดเป็นร้อยละ ๓๖.๑ ของมูลค่าการค้าทั้งหมดในประเทศจีน โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศต่อหัว (GDP per Capita) ของนครเซี่ยงไฮ้ (ในมณฑลเจ้อเจียง) ติดอันดับสูงสุดในประเทศ ถือเป็นเมืองเดียวในจีนที่มีมูลค่า GDP รวมมากกว่า ๒ ล้านล้านหยวน ในขณะที่กรุงปักกิ่งรั้งอันดับ ๒ ด้วยมูลค่า GDP ๑.๙ ล้านล้านหยวน-สถิติเหล่านี้ได้เน้นย้ำถึงศักยภาพของเขตเศรษฐกิจลุ่มแม่น้ำแยงซี
...มีกลุ่มนักลงทุนจำนวนมากจากเขตเศรษฐกิจลุ่มแม่น้ำแยงซีที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทยด้วย ซึ่งรวมถึงการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมไทย-จีน จังหวัดระยอง และการลงทุนของ SAIC Motor หนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในนครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งได้ร่วมทุนกับบริษัทชั้นนำของประเทศไทยลงทุนด้านรถยนต์พลังงานไฟฟ้าและยานยนต์เพื่ออุตสาหกรรมในอนาคต นอกจากนี้ ยังมีบริษัท ZTE, Huawei และ Alibaba ที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทยด้วย ในขณะที่ไทยเองก็ได้มีการส่งออกสินค้าของไทยหลายประเภทไปสู่เขตเศรษฐกิจแห่งนี้ ได้แก่ เครื่องจักร อิเล็กทรอนิกส์ วงจรรวม พลาสติก และผลไม้ โดยเฉพาะทุเรียนเกรดพรีเมียม ซึ่งสินค้าทั้งหมดนี้สร้างรายได้ให้กับธุรกิจภาคการเกษตรของไทยและภาคการลงทุนอย่างมาก
รัฐบาลไทยตระหนักถึงศักยภาพของเขตเศรษฐกิจลุ่มแม่น้ำแยงซีเป็นอย่างดี จึงได้ก่อตั้งสถานกงสุลใหญ่ ณ นครเซี่ยงไฮ้ เมื่อปี ๒๕๔๐ โดยมีอาณาเขตครอบคลุมเขตเศรษฐกิจลุ่มแม่น้ำแยงซี และได้ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างไทยและกลยุทธ์ของเขตเศรษฐกิจลุ่มแม่น้ำแยงซีมาอย่างต่อเนื่อง
สำหรับท่านกงสุลใหญ่ลดา ที่เพิ่งรับหน้าที่กงสุลใหญ่ในนครเซี่ยงไฮ้ยังไม่ถึง ๑ ปี ได้ร่วมจัดกิจกรรมต่าง ๆ ครอบคลุมทุกด้านของความร่วมมือไทย-จีน เพื่อให้ประเทศไทยอยู่ในเรดาร์ของภาคธุรกิจ หน่วยงานของรัฐ และประชาคมระหว่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ ล่าสุดเมื่อวันที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๖๔ ได้จัดการประชุมเศรษฐกิจกรุงเทพฯ-เซี่ยงไฮ้ ครั้งที่ ๔ (Bangkok-Shanghai Economic Conference) ในหัวข้อ “การสอดประสานนโยบายเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุ่นเวียน และเศรษฐกิจสีเขียวของไทยกับนโยบายการพัฒนาที่มีคุณภาพสูงของจีน: จาก EEC ถึง YRD” (“Synergizing Thailand’s BCG with China’s High-Quality Development: From EEC to YRD”) ที่นครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก มีผู้บริหารระดับสูงจากภาครัฐและภาคธุรกิจเข้าร่วมประมาณ ๖๐ คน และมีผู้รับชมการถ่ายทอดสดกว่า ๕,๐๐๐ คน
นอกจากนี้ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครเซี่ยงไฮ้ ยังคำนึงว่า soft power หรืออำนาจละมุน จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยในระดับสากล จึงดำเนินการผลักดันมวยไทย การนวดไทย และสปาไทย ให้เป็นที่นิยมและเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ยิ่งไปกว่านั้น สถานกงสุลใหญ่ฯ มีเป้าหมายในการสานต่อเรื่องราวความสำเร็จของความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และธุรกิจในเขตเศรษฐกิจลุ่มแม่น้ำแยงซี เพื่อผลักดันให้เกิดผลเป็นรูปธรรมมากขึ้นในอนาคต รวมถึงส่งเสริมความเชื่อมโยงกับสถาบันการศึกษา มหาวิทยาลัย และผู้คนท้องถิ่นในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อผนึกพลัง ประสานความต่างทางยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาของทั้งสองประเทศในการสร้างผลประโยชน์ร่วมกันระหว่างประเทศไทยกับพื้นที่ในเขตเศรษฐกิจลุ่มแม่น้ำแยงซี
ท่านกงสุลใหญ่ลดาเชื่อว่า ทั้ง EEC ของไทย และ YRD ของจีน จะเกื้อกูลกันและกันในการสร้างโอกาสและความร่วมมือด้านต่าง ๆ อาทิ ด้านการวิจัยและการพัฒนา หุ้นส่วนทางธุรกิจและการลงทุน หุ้นส่วนในระดับภูมิภาค หรือการบรรลุเป้าหมายทางอุตสาหกรรมในพื้นที่และการเป็นหุ้นส่วนทาง BCG
ที่มา https://t.cn/A66xj1dK
【秘鲁亚马逊丛林中发现新的青蛙种类 | Descubren nueva especie de rana en la selva amazónica peruana】Una nueva especie de rana marsupial fue descubierta en la selva amazónica de Perú, dijo el lunes el servicio estatal de áreas naturales protegidas. La nueva especie pertenece al género Gastrotheca de ranas sin cola que se encuentran en América del Sur y Central. Más: https://t.cn/A6cKApTR
✋热门推荐